18 พฤษภาคม 2557

กอดกันหน่อยดีไหม


เพื่อนร่วมงานของผมท่านหนึ่ง เธอเป็นคุณแม่ลูกสอง มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อคืนก่อน ลูกสาวอายุเก้าขวบมีไข้ขึ้นเล็กน้อย ก็เลยต้องนอนกอดลูกอยู่พักใหญ่ จนอาการเริ่มดีขึ้นเมื่อผ่านไปได้สักชั่วโมง ผมฟังแล้วก็งงๆ ถามกลับไปว่า กอดลูกนี่มันช่วยให้ไข้ลดเหรอ เธอก็บอกไม่รู้เหมือนกัน ไข้มันลดทุกที แล้วลูกเธอก็หลับได้ทุกครั้ง นี่ ความรักของแม่นี้ช่างยิ่งใหญ่จุงเบย

ด้วยความสงสัย เลยลองหาข้อมูลจากอากู๋ ไปเจอข้อมูลอันนึงน่าสนใจ เกี่ยวกับสารเคมีอันนึงที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ รวมถึงช่วยให้ชีวิตมนุษย์อย่างเราๆแตกต่างจากสัตว์โลกอีกหลายสปีชี่ส์ ฮอร์โมนตัวนี้ชื่อ ออกซิโตซิน( OXYTOCIN) เป็นสารเคมีที่หลั่งออกมาจากสมองส่วนที่เรียกว่า ไฮโปทาลามัส หลายๆท่านในวงการแพทย์เรียกฮอร์โมนตัวนี้ว่า ฮอร์โมนแห่งความรัก ชักน่าสนใจแล้วสิ งั้นเรามาดูกันว่า ฮอร์โมนตัวนี้มันมีผลต่อมนุษย์อย่างไรบ้างครับ

1.ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องไปหาจากที่ไหน
เมื่อคุณกอดใครสักคนที่คุณรักและห่วงใย หรือถ้าแบบฝรั่ง ก็แค่จับมือแบบเช็คแฮนด์ เจ้าออกซิโตซินก็จะถูกหลั่งออกมาจากสมองของคุณและคนที่คุณเลือกจะกอด ทำให้คุณและเขาเกิดความเชื่อมั่นและไว้ใจซึ่งกันและกัน จากการวิจัยเค้าบอกต่อว่า แม้เพียงแค่เหลือบมองหรือคิดถึงคนที่คุณรู้สึกปลื้มหรือแอบหลงรัก เจ้าสารเคมีตัวนี้ก็จะออกมาสร้างความซาบซ่านให้ตัวคุณทันทีเหมือนกัน รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมแอบคิดถึงคนที่คุณปิ๊งให้บ่อยขึ้นหน่อย ชีวิตจะได้สดชื่น อิอิ

2.โมเลกุลแห่งความรัก
เจ้าออกซิโตซิน เมื่อทำงานร่วมกับสารเคมีอีกสองตัว คือ โดปามีน(DOPAMINE) และนอริพิเนฟรีน(NOREPINEPHRINE) ช่วยกันทำงานสร้างความผูกพันและความเป็นผัวเมีย(ตรงๆเลยแล้วกัน) ก่อเกิดสถานะร่วมกันขึ้นมา นอกจากนี้ พวกมันยังไปเพิ่มความปรารถนาที่จะจิ๊จ๊ะกันอีกด้วย และสำหรับท่านชาย ออกซิโตซินจะช่วยให้ท่านตั้งตระหง่านเมื่อเวลาที่ต้องการ ต่อจากนั้น ในขณะที่ท่านกำลังไฟลุกโชน เจ้าออกซิโตซินในสมองจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ไคลแมกซ์ (ORGASM)  ในสมองของทั้งคู่จะท่วมท้นไปด้วยสารออกซิโตซิน ซึ่งเป็นคำตอบที่ว่า หลังจากเสพสมกันแล้ว คู่รักมักจะชอบที่จะตระกองกอดกันต่ออีกสักระยะหนึ่ง แหม เขียนซะเป็นอีโรติคเลยนิ

3.ทำให้คุณแม่เป็นคุณแม่ตัวจริง
ในขณะที่ขุ่นหมอทำคลอดให้ขุ่นแม่ เจ้าออกซิโตซินจะถูกหลั่งออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นการบีบตัวของมดลูก และบางครั้งถ้าจำเป็น ขุ่นหมอจะฉีดเจ้าสารเคมีตัวนี้ ซึ่งอยู่ในชื่อการแพทย์ว่า PITOCIN ให้กับขุ่นแม่เพื่อช่วยอีกแรง ทำให้คลอดง่ายและรวดเร็วขึ้น คุณแม่จะได้ไม่ต้องเจ็บนาน และหลังจากคลอดแล้ว สารออกซิโตซินจะถูกถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกผ่านการให้นมแม่ ก่อเกิดความรู้สึกผูกพันและอบอุ่นระหว่างกันและกัน สำหรับคุณพ่อ อย่าเพิ่งน้อยใจ คุณหมอมีวิธีทำให้รู้สึกอย่างเดียวกับคุณแม่ได้ด้วยนะ ถ้าต้องการ เพียงแค่พ่นสเปรย์ที่มีตัวออกซิโตซินเข้าทางจมูกคุณพ่อ จะทำให้คุณพ่ออยากจะเล่นกับลูกและใกล้ชิดลูกมากขึ้น อืม น่าลองมั๊ยเนี่ย

4.เข้าสังคมอย่างชิลล์ๆ
ออกซิโตซินมีส่วนช่วยในการสร้างความมั่นใจในตัวเองเมื่อต้องเข้าร่วมกลุ่มใดๆก็ตาม โดยสร้างความเชื่อมั่นและลดความกลัวที่จะพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยเยียวยาอาการหดหู่หรือบาดแผลในใจจากอดีตที่ผ่านมาอีกด้วย

5.เยียวยาบาดแผลและอาการเจ็บปวด
ออกซิโตซินช่วยลดอาการติดเชื้อ และบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ด้วย นั่นคือเหตุผลที่ว่า เมื่อรู้สึกเจ็บไข้ได้ป่วย เพียงแค่กอดกัน ก็ช่วยเพิ่มออกซิโตซินในสมอง ลดความรู้สึกเจ็บปวดลงไปได้มาก อนึ่ง มีเคล็ดลับประคองชีวิตคู่ โดยเฉพาะเรื่องจิ๊จ๊ะ คราวหน้าถ้ารู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว สะกิดบอกคู่รักของคุณว่า นี่เธอ วันนี้ฮันหนีรู้สึกปวดเมื่อยจุงเบย เรามาสแครชกันหน่อยได้ป๊ะตะเอง อยากเพิ่มสารออกซิโตซินหน่อย อิอิ

6.ยาลดความอ้วน
จากผลการวิจัยของคณะทำงานคณะหนึ่ง ได้ความว่า หนูทดลองที่ไม่ได้รับสารออกซิโตซิน จะอ้วนกว่าหนูที่ได้รับสารออกซิโตซิน จากผลดังกล่าว เค้าเชื่อว่า ออกซิโตซินมีผลต่อกระบวนการเมตาโบลิซึ่มทั้งในหนูและคนเรา ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากหนูอ้วนพีแล้ว ลองฉีดออกซิโตซินกลับไปให้หนูอ้วน สักพัก หนูอ้วนก็กลับมาสเลนเดอร์อีกครา รู้อย่างนี้แล้ว หาวิธีเพิ่มออกซิโตซินให้มากขึ้นนะจ๊ะสาวๆ 

7.สารป้องกันความหดหู่
จากผลการวิจัย(อีกแระ) บอกว่า ออกซิโตซินมีความเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อคุณแม่หลังการคลอด คุณแม่บางท่านมีอาการหดหู่หลังคลอดเป็นเพราะปริมาณออกซิโตซินในสมองมีจำนวนลดลงอย่างมีนัยยะ คุณหมอสามารถทำนายและป้องกันการหดหู่ของคุณแม่หลังคลอดได้ โดยวัดปริมาณออกซิโตซินของคุณแม่หลังคลอด 

8.เพชรฆาตความเครียด
ออกซิโตซินช่วยลดจำนวนคอร์ติซอล(CORTISOL)ในร่างกายและช่วยลดความดันโลหิต และยังช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหารซึ่งมักจะถูกรบกวนจากความเครียดที่พุ่งสูงขึ้น สารออกซิโตซินยังถูกพบในลำไส้ของคนเราอีกด้วย ซึ่งมันจะช่วยให้อาหารที่ถูกย่อยเดินทางผ่านลำไส้ได้สะดวก ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์เข้าสู่ร่างกายและยังช่วยลดอาการติดเชื้อในลำไส้อีกด้วย แหม มันดีจริงๆนิ

9.ใจกว้าง และมีเมตตา
ออกซิโตซิน มีผลต่อการตัดสินใจของมนุษย์เกี่ยวกับการเผื่อแผ่ เสียสละประโยชน์หรือความสุขส่วนตัว และแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่มีน้อยกว่า จากผลการวิจัย พบว่า กลุ่มทดลองที่ถูกฉีดสารออกซิโตซินให้ จะมีแนวโน้มที่จะแบ่งเงินให้กับคนแปลกหน้ามากกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดสารออกซิโตซินให้ถึง80เปอร์เซ็นต์ทีเดียวเชียวนะ ว้าว คราวหน้า ขอแบ่งยามาฉีดให้เพื่อนสนิทที่รวยๆสักคนดีมะ แล้วรีบเข้าไปโอดครวญว่าขาดแคลนอยู่ตอนนี้ ไม่รู้ว่า จะได้เงินปะเนี่ย

10.ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์
เขียนอย่างนี้ งงมั๊ย อย่าเพิ่งงงครับ พูดกันง่ายๆ หากคนเราขาดสารออกซิโตซิน คนเราจะไม่มีความรู้สึกห่วงใย ความรู้สึกเชื่อมั่นในสังคมที่เราอยู่ กลุ่มคนที่เราทำงานด้วย เพื่อนบ้าน และอีกหลายๆกลุ่มสังคม  นอกจากนี้ มันยังช่วยเรารักษาความสัมพันธ์และมีความรักต่อกันอย่างจริงใจ ทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ

รู้ถึงประโยชน์ของออกซิโตซินขนาดนี้แล้ว มามะ มากอดกันหน่อยดีไหม เพิ่มปริมาณออกซิโตซินกัน อิอิ

ปล. คราวหน้า จะมาเว้าต่อ ด้านมืดของ ออกซิโตซิน ก็มีนะ จะบอกให้ โปรดติดตามตอนต่อไป

เครดิต: www.io9.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น