2 มีนาคม 2558

Royce vs Royce

Royce vs Royce

มันเป็นความบังเอิญของชีวิตนักบินอย่างผมที่ได้รู้จักและคุ้นเคยกับสินค้าสองชนิดที่มีความพ้องของชื่อ มันมีที่มาที่ไปและคุณลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สินค้าชนิดแรก เป็นเครื่องยนต์เครื่องบินขนาดใหญ่ที่สามารถนำเครื่องบิน B787-8 Dreamliner ที่ผมบินอยู่ ทะยานขึ้นท้องฟ้าพาบินไปไกลครึ่งค่อนโลก และสินค้าชนิดที่สองเป็นของหวานนุ่มลิ้นที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ ลูกเล็กเด็กแดงที่ได้มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่น คงจะได้ลิ้มรสและซื้อกลับมาเป็นของฝากญาติสนิทมิตรสหายกันอยู่เป็นประจำจนผู้ขายแทบจะวางของไม่ทัน

Roll-Royce ชื่อบริษัทที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานร้อยกว่าปี ในปีคศ.1884 Henry Royce  เริ่มสร้างธุรกิจขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เขาออกแบบและผลิตรถยนต์ออกมาเพื่อส่งขาย และในเดือนพฤษภาคมของปีนั้นเอง เขาได้รู้จักกับ Charles Rolls ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทขายรถในลอนดอน ในปีคศ.1904 ทั้งคู่ตกลงร่วมมือกันสร้างบริษัท Rolls-Royce โดยที่ Royce จะดูแลการผลิตรถยนต์เพื่อให้ Rolls ดูแลการจัดจำหน่าย 

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง Rolls-Royce ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการสร้างเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน โดยได้ออกแบบเครื่องยนต์รุ่น The Eagle ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบแรกของโลกที่ติดตั้งบนเครื่องบินแบบ Vickers Vimy ของอังกฤษที่สามารถบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคได้ เครื่องยนต์รหัส “R” ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นมาในปีคศ.1931 เพื่อใช้กับเครื่อง Seaplane และสร้างสถิติโลกในการบินด้วยความเร็วมากกว่า 400ไมล์ต่อชั่วโมง Royce ได้เริ่มต้นโครงการสร้างเครื่องยนต์แบบ Merlin ในปีคศ.1933 แต่เขาได้เสียชีวิตลงเสียก่อนในปีนั้นเอง

ปีคศ.1944 บริษัท Rolls-Royce เริ่มพัฒนาเครื่องยนต์กังหันใบพัด กลายเป็นผู้นำเทคโนโลยี่ในการผลิตเครื่องยนต์ ผู้ที่บุกเบิกการออกแบบในครั้งนั้นคือ Sir Frank Whittle ซึ่งได้นำบริษัทเข้าสู่ตลาดเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่น Conway ที่ติดตั้งในเครื่องบินแบบ Boeing 707 กลายเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่นแรกที่ใช้กับเครื่องบินพาณิชย์ ในปีคศ.1966 Rolls-Royce รวมหุ้นกับบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อีกเจ้าหนึ่งในอังกฤษ นั่นคือบริษัท Bristol Siddeley กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมผลิตเครื่องยนต์ของโลก

ในปีคศ.1960 Rolls-Royce เริ่มโปรเจ็คท์สร้างเครื่องยนต์แบบ RB211 เพื่อใช้กับเครื่องบินแบบ Lockheed L-1011 Tri-Star ซึ่งกลายเป็นหายนะของบริษัทในครั้งนั้น ในปีคศ.1971 ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตนำไปสู่ภาวะล้มละลาย โดยรัฐเข้ามาบริหารจัดการบริษัทเอง และในปีคศ.1973 ได้ถูกแยกส่วนของการผลิตรถยนต์ออกไปต่างหากเพื่อแยกแยะหนี้สิน

ในปีคศ.1987 Rolls-Royce กลับมาอีกครั้งในรูปของบริษัทเอกชน และในปีคศ.1990 ได้ร่วมทุน (Joint venture) กับบริษัท BMW ของเยอรมัน เปิดบริษัทผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินร่วมกัน ส่วนการผลิตรถยนต์ของ Rolls-Royce ได้ถูกซื้อกิจการไปโดย BMW นั่นเองในปีคศ.2003

ในปีคศ.2006 เครื่องยนต์แบบ Trent1000 ของRolls-Royce ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับใช้กับเครื่องบินแบบ  Boeing 787 Dreamliner ได้ถูกขับเคลื่อนเป็นครั้งแรก และในปีคศ.2010 เครื่องยนต์แบบ Trent XWB ที่จะถูกใช้กับเครื่องบินรุ่นใหม่ของ Airbus นั่นคือ A350 XWB ได้เริ่มต้นเดินเครื่อง นำไปสู่การสั่งซื้อเครื่องยนต์แบบนี้เกือบ 1150 เครื่องสำหรับลูกค้าที่รอรับอยู่ในอนาคต และในปีคศ.2013 เครื่องยนต์แบบ Trent XWB ที่จะใช้แทนเครื่องยนต์แบบ Trent 900 ซึ่งถูกติดตั้งกับเครื่องบินแบบ A380 ได้บินขึ้นทดลองเป็นครั้งแรกอีกด้วย

ส่วนสินค้าที่ขายดีอันดับต้นๆของญี่ปุ่น ที่คนไทยมักจะซื้อกลับมาเป็นของฝาก ก็คือช๊อคโกแลตชื่อดัง E-royce หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่า Royce โดยคุณ Yasuhiro Yamazi เจ้าของและประธานบริษัทได้ก่อตั้งขึ้นมาในปีคศ.1983 ที่เมืองซัปโปโร โดยมีทุนของบริษัทเมื่อเริ่มต้นที่สิบล้านเยน ในช่วงสองปีแรกที่เปิดบริษัท การเงินไม่ค่อยดีเพราะเป็นช่วงเศรษฐกิจญี่ปุ่นแย่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ธุรกิจดีขึ้นมาก ร้านขายช๊อคโกแลตของ Royce เปิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกในปี1993 ใช้ชื่อร้านว่า Higashi Naebo Main Shop ซึ่งขายช๊อคโกแลตของ Royce เองและของที่ระลึกอื่นๆด้วย 

ในปีคศ.1996 ได้เปิดศูนย์ส่งสินค้าขึ้นมา รวมไปถึงสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่อีกอันหนึ่ง ชื่อว่า “Nama” และในปีคศ.1997 บริษัทเปิดช๊อปในห้าง Mitsukoshi ใจกลางเมืองSapporo จากนั้นก็ขยายกิจการโดยเปิดร้านขายในสนามบิน โดยเริ่มต้นที่สนามบินภายในเกาะHokkaido 

จากนั้นก็ได้ขยายกิจการออกสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเซียด้วยกันมีอยู่หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยซึ่งมีอยู่ถึงสี่สาขา โดยสาขาแรกเปิดที่ห้างเซ็นทรัลเวิรลด์ ในปีคศ.2005 Royce เริ่มขยายกิจการเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆเช่นอาหาร น้ำดื่ม เหล้า กาแฟ ภัตตาคาร งานศิลปะ และธุรกิจประกันภัย และในปีคศ.2011 ได้เปิด Royce’ Chocolate World ที่สนามบิน New Chitose ในเมืองซัปโปโร เพื่อให้สาวกของE-royce ได้เดินชมและซื้อเป็นของฝากได้ด้วย

สินค้าของ E-royce มีแพ็คเกจที่เรียบง่ายแต่สวยงาม ช๊อคโกแลตมีหลายแบบ สำหรับแบบที่นิยมซื้อกัน เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเจอช๊อคโกแลตรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณหนึ่งตารางนิ้วจำนวนยี่สิบชิ้นถูกตัดมาแล้วและวางเรียงกันสวยงาม มีทั้งแบบที่เป็นเพียวช๊อคโกแลต หรือแบบผสมนมหรือเหล้า แล้วแต่ชอบ สนนราคาก็อยู่ในวิสัยที่นักท่องเที่ยวอย่างพี่ไทยพอจับจ่ายได้ เป็นของฝากจากญี่ปุ่นที่คนไทยชอบเหมาเข่งกลับบ้านจากสนามบินในญี่ปุ่นเพราะไม่ต้องเสียภาษีบ้านเค้า แต่บ้านเรา ตัวใครตัวมันนะ

ทุกครั้งที่ผมเดินทางกลับจากญี่ปุ่น Rolls-Royce จะต้องปะทะกับ E-Royce อยู่เสมอ  ขับเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์ของ Rolls-Royce พร้อมกับชิมช๊อคโกแลตชั้นเลิศจาก E-Royce มันสุดแสนจะ Aroi (อร่อย) จริงมั๊ยท่านผู้ชม!!!!!!

—————————


ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่  www.nuckbin.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น