First Solo
First Soloความรู้สึกนั้นยังติดอยู่ในใจมาตลอด....วันแรกที่บินเดี่ยว(First Solo)ยี่สิบปีที่แล้วที่สถาบันการบินพลเรือนหัวหิน ครูน้อย ครูการบินของผม กล้าที่จะปล่อยให้ลูกศิษย์ฝีมือท้ายตารางอย่างผมบินเดี่ยวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ขึ้นไปนั่งบินเครื่องบินแบบ TB9 SOCATA กับผมแล้วให้บินในวงจร(Circuit) ทำTouch-and-Goให้ครูน้อยดูอยู่สองสามรอบ ก็ให้ผมบินลงมาปล่อยครูลงข้างล่าง แล้วบอกผมว่า
“ มึงไปเดี่ยว ”
ผมคิดในใจว่า
"วันนี้ของกรูมาถึงแล้ว”
วินาทีที่ยิ่งใหญ่นั้นความรู้สึกเป็นอิสระมันบดบังความกลัวไปหมด ย้อนนึกไปตอนที่ขับรถครั้งแรกแบบไม่มีคนสอน อารมณ์คล้ายกันเลย จำได้ว่า ทุกอย่างมันเร็วมาก รู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน เราสามารถพาเครื่องบินวิ่งขึ้นและลงจอดได้ด้วยตัวเอง สุขใจอย่างบอกไม่ถูก นักบินทุกๆท่านคงจำความรู้สึกนี้ได้ดี ผมก็เช่นกัน
เลยทำให้ผมนึกถึงมนุษย์คนแรกๆที่กล้าหาญชาญชัย ท้าทายมฤตยู ด้วยการกล้านำเครื่องบินขึ้นบินเป็นคนแรกๆแบบที่เทคโนโลยี่ในสมัยก่อนแทบไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะสำเร็จและปลอดภัยเลย คงเป็นอะไรที่สุดๆเหมือนกันหากทำได้
ผู้ที่ชื่นชอบการบินและสถิติคงรู้จักพี่น้องตระกูลไรท์(Wright Brothers)ทั้งสองท่านที่นำเครื่องบินที่หนักกว่าอากาศ (Heavier-than-air Aircraft) บินขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นครั้งแรก ที่ Kill Devil Hills รัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม คศ.1903 ด้วยเครื่องบินที่ทั้งคู่ช่วยกันสร้างขึ้นมา มีการบันทึกผลและภาพถ่ายอย่างเป็นทางการโดยสถาบันที่มีชื่อเสียงของโลก เที่ยวบินแรกของวันนั้นทำการบินด้วย Orville Wright ซึ่งบินได้ไกล 120 ฟุต เป็นเวลานาน12 วินาที ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย
แต่จะมีสักกี่คนที่จะทราบว่า ก่อนหน้านั้นสิบสามปี คือในวันที่ 9 ตุลาคม คศ.1890 มีผู้ที่นำเครื่องบินที่หนักกว่าอากาศเช่นกันบินพ้นพื้นมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้ถูกบันทึกรับรองหรือมีภาพถ่ายให้เห็นชัดเจนเหมือนกับที่พี่น้องตระกูลไรท์ได้ทำเอาไว้ ชื่อของเขาคือ Clément Ader ผู้ชึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งการบินของประเทศฝรั่งเศส
Clément Ader เกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน คศ.1841 ที่เมือง Muret,Haute Garonne ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเมือง Toulouse ประเทศฝรั่งเศส Ader ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำในการบุกเบิกการบินของโลกอีกคนหนึ่ง เขาเริ่มเรียนในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและในปีคศ.1878 ได้พัฒนาโทรศัพท์แบบที่ Alexander Graham Bell ได้ประดิษฐ์ขึ้นมาให้ใช้งานได้ดีขึ้น Ader เป็นผู้สร้างเครือข่ายโทรศํพท์ในกรุงปารีสในปีคศ1880
ปีคศ.1903 เขาเริ่มสนใจการออกแบบเครื่องยนต์ และได้สร้างเครื่องยนต์ V8 ซึ่งใช้สำหรับรถแข่งในรายการ Paris-Madrid Race เขาได้ผลิตเครื่องยนต์รุ่นนี้ออกมาสามเครื่อง แต่ไม่ได้นำไปผลิตขายในเชิงพาณิชย์
Ader หันมาสนใจเรื่องการบิน โดยเฉพาะการออกแบบเครื่องบินและเครื่องยนต์กังหันไอน้ำ เขานำเอางานที่ศึกษาโดย Louis Pierre Mouillard (ซึ่งมีชีวิตอยู่ในระหว่างปีคศ.1834-1897) มาสานต่อ ในปีคศ. 1886 เขาได้ออกแบบเครื่องบินที่เขาตั้งชื่อว่า Éole เครื่องบินที่มีรูปร่างคล้ายค้างคาว มีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์กังหันไอน้ำสี่ใบพัด ขนาดยี่สิบแรงม้า เครื่องบินลำนี้มีปีกยาว14เมตร น้ำหนัก 300กิโลกรัม
ในวันที่ 9 ตุลาคม คศ.1890 Ader นำเครื่องบิน Éole ของเขาบินขึ้นได้สูง 20 เซ็นติเมตร และบินได้ไกล 50เมตร ถึงแม้ว่ามันจะใกล้และต่ำ แต่ก็ถือว่าทำสำเร็จ
ผลงานการสร้างและการทดลองครั้งนั้น นำไปสู่การพัฒนาเครื่องบินให้แก่ประเทศฝรั่งเศส กระทรวงสงครามแห่งฝรั่งเศสได้หนุนหลัง Ader ให้พัฒนาและสร้างเครื่องบินรุ่นใหม่ขึ้นมาอีก คือรุ่น Avion III ขนามสามสิบแรงม้าสี่ใบพัด แต่ในที่สุดโครงการ Avion III ถูกล้มเลิกไปเพราะการทดลองบินไม่ประสบความสำเร็จ
Ader ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากในฝรั่งเศสสำหรับความพยายามและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเครื่องบินและเครื่องยนต์ คำว่า Avion ที่เป็นชื่อเครื่องบินของเขาถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่าเครื่องบินที่หนักกว่าอากาศ
ประเทศฝรั่งเศสได้เคยพิมพ์ตราไปรษณียากรออกมาใช้เพื่อเป็นเกียรติแก่ Ader และบริษัท Airbus ได้นำชื่อของเขาไปเป็นชื่อโรงงานผลิตและประกอบเครื่องบินของ Airbus แห่งหนึ่งในเมือง Toulouse ประเทศฝรั่งเศส
ถ้าท่านมีโอกาสไปเที่ยวปารีส ลองหาเวลาแวะไปชม Musée des Arts et Métiers หรือ Museum Of Arts and Crafts ท่านจะเห็นเครื่องบิน Avion III ของ Ader ลอยเด่นเป็นสง่าอยู่ในนั้น
ความกล้าหาญและกล้าลงมือทำของคนในสมัยก่อน นำมาซึ่งความสะดวกสบายและปลอดภัยในปัจจุบันนี้ ต้องขอคารวะและยกย่อง แล้วคนรุ่นหลังอย่างเราๆหล่ะ กล้าคิดอะไรใหม่ๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังบ้าง ช่วงว่างจากกดไลค์ในเฟซบุ๊ค ลองคิดดูนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น