Survival (Episode one)
เพล้งงงงง!!!!!!
เสียงจานหล่นกระแทกพื้น ปลุกให้รอนตื่นจากงีบหลับบนโซฟายาวกลางห้องนั่งเล่นที่บ้านพักของเขาเอง
“แม่ขอโทษนะลูก เผลอไปหน่อยนึง เด๋วแม่เก็บเศษจานก่อน อย่าเพิ่งเดินมานะลูก” คุณแม่ของรอนตะโกนออกมาจากห้องครัวราวกับรู้ว่าลูกชายคนเล็กต้องตื่นแหงๆ
รอนขยับตัวขึ้นช้าๆ เหลือบสายตาไปดูนาฬิกาแขวนเหนือทีวี นี่มันเกือบหกโมงเย็นแล้ว
“ นี่กูนอนไปแค่ครึ่งชั่วโมงเองเหรอ ซวยแล้วคืนนี้” รอนบ่นพึมพำในโชคชะตา คืนนี้เขาต้องทำหน้าที่กัปตันเครื่องบินลำใหญ่ยักษ์ของสายการบินกินรีแอร์ พาผู้โดยสารหลายร้อยชีวิตเดินทางเกือบหกชั่วโมงเพื่อไปยังมหานครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
“ รอน ลูกจะทานข้าวเย็นที่บ้านก่อนมั๊ย พอดีแม่นัดพ่อเค้าไว้ว่าจะไปหาซื้อของเข้าบ้านกันอ่ะ”
“ ไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวผมขับออกไปทานแถวๆสนามบินเอง ง่ายกว่า แม่ไปเถอะ”
“แน่ใจนะ จะให้แม่ทอดไข่เจียวให้มั๊ย แป๊บเดียวก็เสร็จ ข้าวก็มีแล้ว เอาปะ” คุณแม่เฉลียวอดเป็นห่วงลูกไม่ได้
“สบายมากครับแม่ ไปเถอะ เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จก็ไปแล้ว” รอนเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาพอเป็นพิธี
ครอบครัวของรอนมีกันอยู่สี่คน คุณพ่อเป็นข้าราชการบำนาญที่เกษียณจากงานในกระทรวงพาณิชย์ได้สองปี ส่วนคุณแม่เฉลียวเป็นแม่บ้านอาชีพตั้งแต่แต่งงาน สมาชิกอีกคนในบ้านคือน้าเปรมน้องสาวแม่ แกเป็นโอลด์เมทที่ทำงานฟรีแลนซ์สอนเปียโนให้เด็กๆแถวหมู่บ้าน สบายเลยไม่ต้องซื้อบ้านอยู่เอง รอนมีพี่สาวหนึ่งคนแต่งงานกับฝรั่งเบลเยี่ยมและย้ายไปอยู่กับสามีที่กรุงบรัสเซลล์ นานๆจะกลับมาเยี่ยมบ้านสักที
เสียงสตาร์ทรถของพ่อกับแม่บอกให้รอนรู้ว่าตอนนี้เค้าอยู่บ้านคนเดียวแล้ว น้าเปรมก็ไปต่างจังหวัดหลายวัน เลยเป็นหน้าที่ของรอนที่ต้องปิดบ้านเอง กระเป๋าเดินทางจัดไว้แล้วตั้งแต่ตอนเช้า รอนไม่ลืมที่จะตรวจเอกสารการบินส่วนตัวของเขาเอง พาสปอร์ต ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอก เมดิคอลไลเซ้นส์(Medical license) รวมไปถึงบัตรประจำตัวของเขาที่บริษัทออกให้
“ น่าจะครบแล้วนะ ขาดอะไรอีกหว่า?” รอนคิดในใจ หวังว่าคงไม่ขาดอะไรนะ
2000 น.(1300 UTC)
ได้เวลาออกจากบ้าน รอนเดินตรวจรอบบ้าน พ่อกับแม่ยังไม่กลับ สงสัยแวะหาอะไรทานกันนอกบ้านแน่เลย เขาเลยต้องเดินล๊อคประตูรอบบ้านเอง
เขาเดินไปที่รถยนต์คันเล็กแต่แรงของเขาเอง รถคันนี้ซื้อเมื่อสามปีที่แล้ว รอนซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองที่ฝึกผ่านจนได้เป็นกัปตัน เขายกกระเป๋าใหญ่ขึ้นรถ น้ำหนักของมันไม่มาก แต่ขากลับไม่แน่ ไปโตเกียวทั้งทีต้องมีของฝากกลับมาให้ที่บ้านและเพื่อนสาวนิดนึง คราวที่แล้วไปญี่ปุ่นไม่ได้ซื้ออะไรเลยเพราะหิมะตกหนักทั้งวันทั้งคืน ออกไปไหนลำบาก คราวนี้ต้องล้างตาซะหน่อย
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากบ้าน รอนหยิบสมอลทอล์คมาสวมอย่างทุลักทุเลเพราะความมืดในรถ
“ พี่รอนขา ก้อยเองนะ ทำไมไม่โทรหาก้อยเลยอะ ไหนว่าจะโทรตั้งแต่เย็น” เสียงสาวหวานกังวาลในรูหูเต็มๆ
“ขอโทษนะคะน้องก้อย พี่เผลอหลับไปอ่ะ ก้อยอยู่ไหน ไม่ได้ไปบินเหรอวันนี้” รอนโกหกหน้าซื่อ เขาขี้เกียจโทรศัพท์จะตาย
“ไม่ค่ะพี่รอน พอดีเพื่อนก้อยขอแลก วันนี้เลยว่างค่ะ กะว่าจะขับไปส่งพี่ซะหน่อย ออกจากบ้านแล้วเหรอคะ?” ก้อย แอร์โฮสเตสสาว เพื่อนสาวคนสนิทของรอนทำเสียงออดอ้อนเหมือนทุกครั้งที่คุยกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ขับรถมาเอง กะว่ากลับจากไฟลท์นี้จะเลยไปงานวันเกิดเพื่อนแถวๆสนามบินเลยอะค่ะ ขอบคุณนะคะคนสวย” รอนหยอดคำหวานเหมือนทุกครั้งที่คุยกัน
“งั้นก้อโอเคค่ะ คิดถึงพี่รอนม๊ากมากค่ะ ถ้าพี่ถึงโตเกียวแล้ว ไลน์มาบอกหน่อยนะคะ โอเค๊?”
“ได้เลยค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ มีสายเข้า สงสัยที่โอเปอเรชั่นเซ็นเตอร์โทรมา” เขาหาข้ออ้างเลิกพูดโทรศัพท์ มันไม่มีสายเข้าหรอก
รอนรู้จักกับก้อยได้ไม่กี่เดือน เธอสูงยาวเข่าดี หน้าตาทันสมัย คล่องแคล่วและช่างพูด เขาลองจีบเธอดู ก้อยเองก็คงพึงพอใจในรอนอยู่มิใช่น้อยตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ตัวรอนเองเป็นผู้ชายที่รักอิสระและขึ้เบื่อ ที่ผ่านมาก็คบผู้หญิงได้ไม่นานก็เลิกรากันไป คราวนี้สงสัยจะเหมือนเดิมอีก
2100 น.( 1400 UTC)
หางตากระตุกถี่ๆขึ้นมา รอนรู้สึกแปลกใจที่มันกระตุกอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก สงสัยตัวเองว่าคงพักผ่อนน้อยไปหน่อยเพราะเมื่อคืนวานออกไปสังสรรค์กับเพื่อนจนถึงตีสองนั่นเอง
“สวัสดีครับกัปตันรอน วันนี้บินไปไหนครับพ้ม?” พี่บุญ รปภ.คนเก่าแก่ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าโอเปอเรชั่นเซ็นเตอร์ยกมือตะเบ๊ะทักทายรอนเหมือนทุกครั้ง
“หวัดดีพี่บุญ ไปเที่ยวญี่ปุ่นแป๊บนึง อีกสองสามวันก็กลับครับ สบายดีนะพี่” รอนตอบกลับอย่างให้เกียรติกัน
“ขอบคุณครับกัปตัน โชคดีครับพ้ม”
หางตาเริ่มกระตุกถี่ขึ้นเรื่อยๆจนรอนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ขวาร้ายซ้ายดี รอนเคยได้ยินมาอย่างนั้น มันดันเป็นข้างขวาซะด้วยสิ
“ ไม่รู้ตาด้านไหนซ้ายหรือขวาอะ ถือซะว่ามันเป็นซ้ายแล้วกัน อิอิ” รอนคิดแบบปลอบใจตัวเอง
อีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้ รอนคงคาดไม่ถึงว่าสิ่งที่รู้สึกในตอนนี้ มันจะกลายเป็นจริง!!
————————————
ซีซีหมวกเจ๊ก(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น